หลวงปู่อุ้มเป็นพระธุดงค์ชาวเขมรได้ร่วมกับชาวบ้านบูรณปฏิสังขรวัดพระมหาธาตุเจดีย์บ้านดอนแก้ว เมื่อปี พ.ศ.2440 และได้อาศัยพื้นที่ของวัดท่าใต้ (หอพระพุทธในศาลเจ้าปู่-ย่า) เป็นที่จำวัดในช่วงของการบูรณะวัดพระมหาธาตุเจดีย์ เมื่อบูรณะแล้วเสร็จก็ไม่มีใครทราบว่าท่านเดินทางธุดงค์ไปที่แห่งใด
หลังสงครามโลกครั้งที่
1 ทางการได้ให้ข้าหลวงเหลี่ยมควบคุมและดำเนินการสร้างสะพานเพื่อเป็นเส้นทางขนไม้ซุงจากการทำสัมปทานป่าไม้ที่ภูซากลาก (ปัจจุบันคือพื้นที่อำเภอศรีธาตุและวังสามหมอ) มาที่บริษัทเลียงเอี๊ยะไถ่ที่บ้านวาปี โดยมีแป๊ะหมี(นายหมีกี แซ่กวน)
เป็นช่างผู้ควบคุมการสร้างสะพาน และได้มีการสร้างที่พักคนงานขึ้นบริเวณกุฏิเดิมของหลวงปู่อุ้มในวัดท่าใต้
การสร้างสะพานแล้วเสร็จแต่เหมือนกับว่าสะพานชีวิตของแป๊ะหมีเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเพราะแป๊ะหมีได้ตกหลุมรักสาวชาวไทยและตัดสินใจที่จะใช้ชีวิต
บั้นปลายที่บ้านดงเมือง
ปี พ.ศ.2468-2472 ร.อ.อ หลวงนิคมพรรณนาเขต
(เขียน สีหะอำไพ) นายอำเภอคนที่ 9 ได้ย้ายที่ว่าการอำเภอกุมภวาปี
จากบ้านน้ำฆ้องมาตั้งที่บ้านดงเมืองและได้นำความเจริญมาสู่ดงเมืองตั้งแต่บัดนั้น ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ก็เริ่มทยอยเดินทางมาประเทศไทยเพื่อทำการค้าขาย
ปี
พ.ศ.2490 ครอบครัวชาวจีน 3 ตระกูล คือ ตระกูลแซ่กวน (แป๊ะหมี หมีกี แซ่กวน) ตระกูลแซ่ตั้ง (นายเซ่งเจียง
แซ่ตั้ง) และตระกูลแซ่โค้ว (นายผ่ายและนายเอ็งเคียม แซ่โค้ว) ได้รวมตัวกันขอรับบริจาคเงินเพื่อสร้างศาลเจ้าชั่วคราวขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2533 ชมรมคนจีนตลาดดงเมืองได้มีการจัดสร้างศาลเจ้าใหม่ขึ้นแทนศาลาหลังเก่า มีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ เพื่อเป็นจุดศูนย์รวมใจของคนไทยเชื้อสายจีนและยังคงไว้ซึ่งความศรัทธาต่อหลวงปู่อุ้มจึงสร้างหอพระพุทธขึ้นเพื่อเป็นสถานที่เคารพสักการะของชาวอำเภอกุมภวาปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น